ชนิดของหัวกระสุน
#ชนิดของหัวกระสุน
1. LRN = Lead Round Nose บ้านเรานิยามเรียกว่า"ลูกซ้อม" ซึ่งเป็นหัวตะกั่วล้วน จึงมีราคาถูก ความสามารถในการเจาะทะลุดี ขยายตัวได้เล็กน้อยเมื่อหัวกระสุนวิ่งเข้าสู่เนื้อเยื่อ
2.WC = Wad Cutter ออกแบบมาเพื่อใช่ในการแข่งขันยิงเป้ากระดาษ เพราะลักษณะหัวกระสุนจะทำให้เกิดรอยเจาะทะลุบนกระดาษเป้าที่มีขอบรูที่ชัดเจน ง่ายแก่การตรวจนับคะแนน
3.SJ = Semi Jacketed / Semi Jacket Soft Point หัวกระสุนกึ่งJacket ที่ปลายหัวเปิดให้เห็นเนื้อของตะกั่ว ออกแบบมาเพื่อ ให้มีการขยายหน้าตัดของหัวกระสุนเมื่อกระสุนวิ่งเข้าปะทะเนื้อเยื่อ
4.SJHP = Semi Jacket Hollow Point หัวกระสุนกึ่งJacket ที่ปลายหัวเปิดให้เห็นเนื้อของตะกั่วและมีรู เป็นการพัฒนามาจากรูปแบบหัว Semi Jacketed โดยการเจาะรูที่ปลาย เพื่อเพิ่มขนาดของการขยายหน้าตัดหัวกระสุนเมื่อกระสุนวิ่งเข้าปะทะเนื้อเยื่อ
5.SWC = Semi Wad Cutter ออกแบบมาเพื่อ Balances penetration and expansion กล่าวคือ หัวกระสุนจะมีคุณสมบัติทั้งในเรื่องของการเจาะทะลวง และ การขยายหน้าตัดของหัวกระสุน เมื่อกระสุนวิ่งเข้าปะทะเนื้อเยื่อ แต่กลับนิยมนำไปใช่ในการแข่งขันยิงเป้ากระดาษเพราะให้รอยตัดรูกระสุนที่คม
6. FMJ = Full Metal Jacket ในบ้านเรานิยามเรียกว่า"ลูกจริง" ความสามารถในการเจาะทะลุสูง หัวกระสุนแทบไม่มีการขยายตัวเมื่อทะลุผ่านเนื้อเยื่อ เนื่องจากผิวเปลือกที่แข็ง
#วัตถุประสงค์ ของการนำโลหะแข็ง อย่างโลหะทองแดง (Copper) มาเคลือบผิวนอกของหัวกระสุน เหตุผลเพราะว่าในกระสุนความเร็วสูง อย่างกระสุนปืน ไรเฟิล ขนาด 30-06 ตะกั่วมักเป็นคราบติดผิวด้านในลำกล้อง และหากยิงด้วยปืนที่มีอัตราการยิงที่สูงอย่าง ปืนกลสนาม อาจทำให้เกิดการระเบิดของลำกล้องได้ วิศวกร จึงนำโลหะทองแดงมาเคลือบหัวกระสุน ผลปรากฏว่า นอกจากแก้ปัญหาคราบตะกั่วในลำกล้องแล้ว ยังช่วยในเรื่องของ ความแม่นยำ อำนาจการทะลุทะลวง และ กลไกการป้อนกระสุนของปืนมีอาการติดขัดน้อยลงเพราะหัวกระสุนแบบ Full Metal Jacket ไม่นิ่มเหมือนเนื้อตะกั่ว
7.JHP = Jacket Hollow Point ชาวบ้านชอบเรียกว่า "หัวระเบิด" เป็นรูปแบบหัวกระสุนที่พัฒนามาจากหัวกระสุนในแบบที่4 SJHP ซึ่ง JHP จะมีเปลือกทองแดงหุ้มทั้งนัดเจาะรูที่ปลายหัว
รูที่หัวกระสุน ทำหน้าที่รวบรวมของเหลวในร่างกายสร้างให้เกิดความดัน ดันให้หัวกระสุนบานออก
เมื่อปะทะเขากับเนื้อเยื่อหัวกระสุนชนิดนี้ สามารถขยายขนาดหน้าตัดหัวกระสุนได้มากกว่าแบบSJHP รูปแบบการขยายหน้าตัดสามารถออกแบบได้โดยแบ่งสัดส่วนตามแนวรัศมีของเปลือกทองแดง ส่วนที่ขยายออกจะมีความคมของโลหะทองแดง ทำให้ระหว่างที่กระสุนวิ่งผ่านเนื้อเยื่อ จึงสร้างบาดแผลที่มีสภาพความเสียหายที่สูง
ปล.นอกจากชนิดของหัวกระสุนทั้ง 7 ชนิดที่กล่าวมา ยังมีชนิดของหัวกระสุนรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง และยังมีหัวกระสุนรูปแบบใหม่ๆ ที่มีการพัฒนาเพื่อใช่งานเฉพาะด้านอีกมากมายหลายชนิด ทั้ง 7 ชนิดที่กล่าวมาเป็นเพียงรูปแบบหลักๆ ที่มีให้เห็นในบ้านเรา
#TeamNaracEngineer
1. LRN = Lead Round Nose บ้านเรานิยามเรียกว่า"ลูกซ้อม" ซึ่งเป็นหัวตะกั่วล้วน จึงมีราคาถูก ความสามารถในการเจาะทะลุดี ขยายตัวได้เล็กน้อยเมื่อหัวกระสุนวิ่งเข้าสู่เนื้อเยื่อ
2.WC = Wad Cutter ออกแบบมาเพื่อใช่ในการแข่งขันยิงเป้ากระดาษ เพราะลักษณะหัวกระสุนจะทำให้เกิดรอยเจาะทะลุบนกระดาษเป้าที่มีขอบรูที่ชัดเจน ง่ายแก่การตรวจนับคะแนน
3.SJ = Semi Jacketed / Semi Jacket Soft Point หัวกระสุนกึ่งJacket ที่ปลายหัวเปิดให้เห็นเนื้อของตะกั่ว ออกแบบมาเพื่อ ให้มีการขยายหน้าตัดของหัวกระสุนเมื่อกระสุนวิ่งเข้าปะทะเนื้อเยื่อ
4.SJHP = Semi Jacket Hollow Point หัวกระสุนกึ่งJacket ที่ปลายหัวเปิดให้เห็นเนื้อของตะกั่วและมีรู เป็นการพัฒนามาจากรูปแบบหัว Semi Jacketed โดยการเจาะรูที่ปลาย เพื่อเพิ่มขนาดของการขยายหน้าตัดหัวกระสุนเมื่อกระสุนวิ่งเข้าปะทะเนื้อเยื่อ
5.SWC = Semi Wad Cutter ออกแบบมาเพื่อ Balances penetration and expansion กล่าวคือ หัวกระสุนจะมีคุณสมบัติทั้งในเรื่องของการเจาะทะลวง และ การขยายหน้าตัดของหัวกระสุน เมื่อกระสุนวิ่งเข้าปะทะเนื้อเยื่อ แต่กลับนิยมนำไปใช่ในการแข่งขันยิงเป้ากระดาษเพราะให้รอยตัดรูกระสุนที่คม
6. FMJ = Full Metal Jacket ในบ้านเรานิยามเรียกว่า"ลูกจริง" ความสามารถในการเจาะทะลุสูง หัวกระสุนแทบไม่มีการขยายตัวเมื่อทะลุผ่านเนื้อเยื่อ เนื่องจากผิวเปลือกที่แข็ง
#วัตถุประสงค์ ของการนำโลหะแข็ง อย่างโลหะทองแดง (Copper) มาเคลือบผิวนอกของหัวกระสุน เหตุผลเพราะว่าในกระสุนความเร็วสูง อย่างกระสุนปืน ไรเฟิล ขนาด 30-06 ตะกั่วมักเป็นคราบติดผิวด้านในลำกล้อง และหากยิงด้วยปืนที่มีอัตราการยิงที่สูงอย่าง ปืนกลสนาม อาจทำให้เกิดการระเบิดของลำกล้องได้ วิศวกร จึงนำโลหะทองแดงมาเคลือบหัวกระสุน ผลปรากฏว่า นอกจากแก้ปัญหาคราบตะกั่วในลำกล้องแล้ว ยังช่วยในเรื่องของ ความแม่นยำ อำนาจการทะลุทะลวง และ กลไกการป้อนกระสุนของปืนมีอาการติดขัดน้อยลงเพราะหัวกระสุนแบบ Full Metal Jacket ไม่นิ่มเหมือนเนื้อตะกั่ว
7.JHP = Jacket Hollow Point ชาวบ้านชอบเรียกว่า "หัวระเบิด" เป็นรูปแบบหัวกระสุนที่พัฒนามาจากหัวกระสุนในแบบที่4 SJHP ซึ่ง JHP จะมีเปลือกทองแดงหุ้มทั้งนัดเจาะรูที่ปลายหัว
รูที่หัวกระสุน ทำหน้าที่รวบรวมของเหลวในร่างกายสร้างให้เกิดความดัน ดันให้หัวกระสุนบานออก
เมื่อปะทะเขากับเนื้อเยื่อหัวกระสุนชนิดนี้ สามารถขยายขนาดหน้าตัดหัวกระสุนได้มากกว่าแบบSJHP รูปแบบการขยายหน้าตัดสามารถออกแบบได้โดยแบ่งสัดส่วนตามแนวรัศมีของเปลือกทองแดง ส่วนที่ขยายออกจะมีความคมของโลหะทองแดง ทำให้ระหว่างที่กระสุนวิ่งผ่านเนื้อเยื่อ จึงสร้างบาดแผลที่มีสภาพความเสียหายที่สูง
ปล.นอกจากชนิดของหัวกระสุนทั้ง 7 ชนิดที่กล่าวมา ยังมีชนิดของหัวกระสุนรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง และยังมีหัวกระสุนรูปแบบใหม่ๆ ที่มีการพัฒนาเพื่อใช่งานเฉพาะด้านอีกมากมายหลายชนิด ทั้ง 7 ชนิดที่กล่าวมาเป็นเพียงรูปแบบหลักๆ ที่มีให้เห็นในบ้านเรา
#TeamNaracEngineer
ความคิดเห็น